แอร์รถยนต์ หมั่นดูแลก่อนจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค

0
5657

เมื่อคุณก้าวขึ้นรถสิ่งหนึ่งที่ต้องทำก็คือการเปิด แอร์รถยนต์ ใช่ไหมคะ เพื่อให้รู้สึกเย็นสบาย อากาศถ่ายเทและหายใจสะดวก ขึ้น ยิ่งบ้านเราเป็นเมืองร้อน อากาศอบอ้าว การเปิดแอร์จึงยิ่งมีความจำเป็น  การใช้แอร์เป็นประจำย่อมเกิดความสกปรก มีการสะสมของฝุ่นละออง และเชื้อโรค มากมาย

คุณทราบไหมคะว่าแอร์สกปรกทำให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคเยื่อบุในระบบทางเดินหายใจ โรคจากการติดเชื้อในปอด โรคผิวหนัง ไม่ว่าจะผิวหนังอักเสบ ผิวแห้ง ผื่นคัน โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เช่น วัณโรค อีสุกอีใส  โรคติดเชื้อแบคทีเรียเฉียบพลัน จากเชื้อลีเจียนแนร์ ที่พบได้มากในเครื่องปรับอากาศ ทำให้รู้สึกเบื่ออาหาร ปดวศีรษะ อ่อนเพลีย เมื่อย มีไข้ เมื่อเราทราบแล้วว่าการที่แอร์รถยนต์สกปรกจะส่งผลเสียต่อร่างกาย คราวนี้เรามาดูกันคะว่าเราจะความสะอาดแอร์ได้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง

ปัจจุบันมีบริการล้าง แอร์รถยนต์ ด้วยกัน 4 วิธี

1. ล้างแบบไม่ถอดตู้ เหมาะสำหรับรถใหม่ รถที่ล้างแอร์ประจำปีละ 1 ครั้ง หรือรถที่ดูแลตู้แอร์เป็นประจำ แต่สำหรับรถที่มีอายุการใช้งานนาน 7-8 ปี การล้างตู้แอร์แบบนี้จะไม่ค่อยสะอาด ไม่สามารถจำกัดฝุ่นที่ไปอุดอยู่ตามตู้แอร์ รวมทั้งฝุ่นเหล่านี้จะไปอุดตันรูรั่วไว้ การล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้นั้นจะใช้เวลาน้อย ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายค่าแรงถูกกว่า และไม่ต้องรื้อคอนโซลรถอีกด้วย ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปรื้อส่วนอื่นๆ แล้วถ้าเจอช่างทำงานไม่เรียบร้อยก็อาจเกิดปัญหาได้ แต่ก็จะทำให้การล้างแอร์ไม่ค่อยจะทั่วถึง ไม่สะอาดเท่าที่ควร หากตู้แอร์ของคุณสกปรกมาก

ปัจจุบันการล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้นั้นมีแบบใช้เครื่องจักรที่เรียกว่า “เครื่องล้างตู้แอร์” การล้างแอร์ด้วยเครื่องจะลดการสะสมของเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในแอร์รถยนต์ และไม่ต้องมากังวลเรื่องน้ำยาล้างแอร์ที่ไม่มีคุณภาพ ยิ่งกว่านั้นการล้างด้วยเครื่องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์หรือคอยล์เย็น แต่การล้างด้วยเครื่องจะทำให้ไม่เราเห็น รอยรั่วต่างๆว่ามีหรือไม่

2. ล้างตู้แอร์แบบถอดตู้ การล้างแบบนี้จะต้องรื้อตู้แอร์ ถอดคอยล์เย็นออกมาล้าง ด้วยน้ำยาล้างโดยเฉพาะ แต่หากประหยัดต้นทุน อาจจะใช้ผงซักฟอก หรือโซดาไฟมาล้างแทน ซึ่งสารเหล่านี้จะล้างออกได้อยาก เวลาคุณเปิดแอร์จะได้กลิ่น สูดดมเข้าไปก็ใช่เรื่องที่ดี และอาจกัดกร่อนคอยล์เย็นได้ น้ำยาแอร์จะถูกปล่อยทิ้ง ซึ่งจะทำให้น้ำมันคอมไหลตามออกมา

3. การฉีดเปรย์ทำความสะอาดตู้แอร์ สเปรย์จะทำความสะอาดคอยล์เย็น คราบน้ำยาจะออกมาพร้อมกับน้ำยาแอร์ที่ไหลออกมาตามท่อน้ำทิ้ง การทำความสะอาดแอร์ด้วยสเปรย์เหมาะสำหรับตู้แอร์ที่ไม่ค่อยสกปรก มีฝุ่นไม่เยอะ สามารถทำได้บ่อย 2-3 เดือนต่อครั้ง และสเปรย์บางตัวยังช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย

4. การใส่ที่กรองแอร์ การใช้ที่กรองแอร์ช่วยกรองฝุ่นละอองที่เข้ามาในช่องแอร์ได้ในระดับหนึ่ง มีอายุการใช้งานประมาณ 5,000 กิโลเมตร กรณีที่แผ่นกรองแอร์ครบกำหนดเปลี่ยนแต่ยังฝืนใช้อยู่จะทำให้ลมผ่านเข้าทางตู้แอร์ไม่สะดวก ทำให้ลมที่ออกมาจากแอร์มีกำลังน้อย ส่งผลต่อคอมฯแอร์ ข้อจำกัดของการใช้ที่กรองแอร์ก็คือ ไม่สามารถใช้ได้กับรถทุกรุ่นนะคะ เพราะกรองแอร์จะผลิตมาสำหรับรุ่นรถยนต์บางยี่ห้อเท่านั้น

ควรหมั่นทำความสะอาดแอร์รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ หรือมั่นเข้าเช็คตามระยะที่คู่มือรถกำหนด อย่าปล่อยให้ความเย็นที่ออกมาจากแอร์ทำให้เราเจ็บปวดนะคะ เป็นห่วงคะ